++ ทริปสั้นๆ ที่ขุนช่างเคี่ยน ม่อนแจ่ม ++

การเดินทางครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งกับเส้นทางสายสีชมพู ครั้งนี้เรามีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ที่พร้อมจะลุยไปด้วยกัน กับทริปสุดทรหด 2 วัน 1 คืน เริ่มต้นด้วยการนั่งรถของ ชาญทัวร์ ชั้น S Class ที่มีความพิเศษคือ มีจอทีวีทุกที่นั่ง อยากดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมส์ ก็ตามแต่ชอบได้เลย แต่ยังมีปลั๊กไว้ให้ชาร์จแบ็ตได้ด้วย
การเดินทางครั้งนี้ผมได้แจ้งกับน้องๆ ที่จะไปด้วยแล้วว่า เราจะเช่ามอไซค์่ขับนะ ถ้าใครไม่ไหวให้ถอนตัวได้เลย เพราะว่าค่อนข้างลำบาก
แต่ทุกคนก็ยังยืนยันว่าจะไป ไม่เป็นไรสบายมาก เรื่่องของเรื่องที่เป็นห่วงก็คือน้องทั้งสามคนเป็นผู้หญิงกันหมด นั่นแหละที่น่าห่วง
หลังจากที่่เช่ามอเตอร์ไซค์กันเรียบร้อย พวกเราก็ออกเดินทางกันในทันที โดยมุ่งหน้าสู่ขุนช่างเคี่ยนซึ่งเป็นเป้าหมายแรกของพวกเราในทริปนี้
ช่วงแรกๆของการขับมอเตอร์ไซค์ ผมก็เป็นห่วงอยู่ตลอดว่าน้องเขาจะขับขึ้นเขาไหวไหม แต่ก็ผ่านมาได้เรื่อยๆตลอด
จนถึงทางโค้งก่อนที่จะถึงวัดพระธาตุดอยสุเ้ทพ อยู่ๆน้องก็ขับเกือบหลุดโค้งแหน่ะ ดีนะที่เบรครถทัน สอบถามได้ความว่า เลี้ยวรถไม่ได้ 555 (ขำกันไปเล็กน้อย)
หลังจากนั้นก็เปลี่ยนคนขับให้น้องอีกคนซึ่งเป็นเพื่อนกันนั่นแหละ ก็ขับไปได้เรื่อยๆ ในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงขุนช่างเคี่ยนจนได้
สัมผัสแรกที่เจอ ตะลึงไปตามๆกัน ตลอดเส้นทางสั้นๆตรงนั้นเต็มไปด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังเบ่งบานเต็มต้นไปหมด มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีชมพูหวานแหวว
 
เสียดายที่พวกเรามาถึงสายไปหน่อย แสงแดดเลยค่อนข้างแรงทีเดียว
งั้นเราอย่ารอช้า ไปเดินถ่ายรูปกันดีกว่า วันนี้นักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย
หัวมุมโค้งสุดฮิต ก็ไม่อยากพลาดเหมือนกันครับ
รถแดงที่นักท่องเที่ยวเหมาขึ้นมาจากตัวเมือง
มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีชมพูเต็มไปหมด สวยงามมากจริงๆ
อีกมุมของหัวโค้งถนนทางลงที่ไปสู่สถานีวัยจัยเกษตร

พวกเราทั้งสี่คนก็เดินถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ไปเรื่อยๆ
เหมือนๆกับนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ที่กำลังสนุกกับการถ่ายรูปกัน
สีชมพูหวานแหวว ของดอกนางพญาเสือโคร่ง
เดินเล่นถ่ายรูปกันเพลิน มองดูนาฬิกาอีกที 11 โมงกว่าแล้ว นี่พวกเรายังไม่ได้ทานข้าวเช้ากันเลยนะ
ดีนะที่พวกเรามีขนมปังติดตัวมาด้วยคนละชิ้น เลยได้รองท้องแก้ความหิวกันไป
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเดินทางมาชมดอกนางพญาเสือโคร่งของที่นี่ ส่วนมากจะเป็นช่วงกลางเดือนมกราคม อาจจะมีก่อนหรือหลังเล็กน้อยตามแต่สภาพอากาศของแต่ละปี
 
อันที่จริงแล้วจุดเริ่มต้นไม่ได้อยากมาที่นี่เลย อยากไปที่ม่อนแจ่ม พอทราบข่าวว่าช่วงที่เราเดินทางนั้นดอกนางพญาเสือโคร่งกำลังบานอย่างสวยงามก็เลย แวะมาชมที่นี่ก่อน
ภาพแบบใกล้กันๆบ้าง ก่อนที่เราจะเดินทางไปที่อื่นกันต่อ
น่าสงสารน้องๆที่มาด้วยคงหิวแย่แล้วปานนี้
แต่ว่าขอเวลาอีกนิดนะ กำลังสนุกกับการถ่ายรูปอยู่เลย
หลังจากนั้นพวกเราก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปกันต่อ พอเห็นทางเข้าศุนย์วิจับเกษตร ก็เลยขอแวะเข้าไปดูอีกนิดหนึ่ง
พวกน้องๆก็โอเคเพราะว่าจะได้เข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยด้วย
ได้โอกาสแล้ว งั้นขอไปถ่ายรูปมุมอื่นๆต่อดีกว่า
อีกมุมสุดฮิตของดอยขุนช่างเคี่ยน

มองไปทางไหนๆก็สวยงามมากทีเดียว โชคดีที่เรามาถูกจังหวะพอดี
อีกภาพก่อนที่เราจะออกจากที่นี่เพื่อไปที่อื่นกันต่อแล้ว อันนี้ดอกบ๊วยหรือปล่าวไม่แน่ใจครับ สวยดี
พวกเราขับเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อที่จะหาอะไรทาน เเต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรทานเลยมีเพียงร้านกาแฟร้านนี้ร้านเดียว เลยตกลงกันว่าไปหาอะไรทานข้างหน้าดีกว่า ยังพอทนไหว
งั้นเรามุ่งหน้าไปที่อื่นกันต่อดีกว่า ขาลงเราใช้เส้นทางลงอีกทางสู่ห้วยตึงเฒ่า
 
ทางเส้นนี้เป็นลูกรังตลอดทั้งเส้นทาง มีชันบ้างขรุขระบ้างแต่เส้นทางก็เรียบดีใช้ได้
อาหารมื้อแรกของเรา ง่ายๆครับ ก๊วยเตี๋ยวกับข้าวผัดกระเพรา บริเวณตลาดแม่ริม ทางขึ้นไปยังวัดพระพุทธบาทสี่รอย ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราต่อไป
จากปากทางไปวัดพระพุทธบาทสี่ร้อย ระยะทางประมาณ 40 ก.ม. แต่เส้นทางเป็นลาดยางและคอนกรีตตลอดทาง ขับง่าย เป็นทางขึ้นเขาช่วง 15 ก.ม.สุดท้าย
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงวัดพระพุทธบาทสี่รอยกันแล้ว หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาสักพักกับการขับรถมาไกล ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่อันซีน ประวัติความเป็นมายาวมาก
พระธาตุเจดีย์หลังจากพระพุทธบาทสี่รอย
หลังจากนั้นเราก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง พระอุโบสถที่กำลังสร้างอย่างสวยงาม
พระอุโบสถเป็นทรงจตุรมุข สวยงามมากประดับด้วยลวดลายปูนปั้นและกระจกสี
เกือบบ่ายสามโมงแล้ว พวกเราต้องรีบออกเดินทางออกจากวัดพระธาตุสี่รอย เพราะเป้าหมายสุดท้ายของวันนี้ซึ่งเป็นที่พักของพวกเราคือ ที่ม่อนแจ่ม ผมจองเต๊นท์ที่พักไว้ที่ ม่อนอิงดาว อยู่ห่างจาก ม่อนแจ่มประมาณ 1 กม.
พวกเรามาถึงที่นี่ประมาณ 16.30 น. เหนื่อยสุดๆไปเลย
 
รีบไปอาบน้ำกันดีกว่าจะได้ไปชมพระอาทิตย์ตกกัน
วิวทิวทัศน์ยามเย็น บริเวณเลยจากม่อนอิงดาวไปเล็กน้อย
เสียดายที่ฝั่งนี้ไม่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้ เพราะมีเขาลูกใหญ่ลูกหนึ่งบังเอาไว้ น่าเสียดายแต่ไม่เป็นไร บรรยากาศมุมนี้ก็สวยไปอีกแบบ
ยามพระอาทิตย์ใกล้จะตก แสงตะวันสาดส่องบริเวณ ดอยม่อนล่องเป็นสีออกเเดงๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราำจะไปที่นั่นกัน
บริเวณศาลาชมวิวใกล้ที่พัก
ตื่นเช้ามารับแสงวันใหม่ที่หน้าเต๊นท์ เมื่อคืนหนาวมากๆ ลมแรงสุดไปเลย
หลังจากล้างหน้าล้างตากันเรียบร้อยก็เดินไปชมไร่สตอเบอรี่กันหน่อยครับ อยู่ด้านหลังของที่พักเลย
 
ขออนุญาตเจ้าของไร่เข้าไปเดินชมสักหน่อยครับ
สตอเบอรี่ลูกโตๆ น่ากินเชียว
หลังจากนั้นก็ได้เวลาที่พวกเราจะเเว๊นไปกันต่อที่ม่อนแจ่มแล้วครับ
ม่อนแจ่มอยู่ในโครงการหลวงหนองหอย เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม
ทีแรกผมกะว่าจะมาพักที่ม่อนแจ่ม แต่ว่าที่พักเต็มก็เลยไปนอนที่ม่อนอิงดาวกัน
ช่วงเช้าๆแบบนี้นักท่องเที่ยวขึ้นมากันอย่างคึกคัก
มุมอีึกด้านของม่อนแจ่ม
บริเวณที่นั่งของร้านอาหารบนม่อนแจ่ม บรรยากาศดีจริงๆ
เป็นศาลาก็มีและเป็นแบบดั้งเดิมกว่า
ภาพวิวทิวทัศน์อันสวยงามกับบรรยากาศช่วงเช้าๆ
 
หลังจากชื่นชมบรรยากาศที่ม่อนแจ่มกันเรียบร้อยเราก็มุ่งหน้ากันไปต่อที่ ดอยม่อนล่อง 
ม่อนล่องเป็นจุดชมวิวและจุดสูงสุดของ อำเภอแม่ริม
จากมุมนี้สามารถมองเห็นไร่สวนต่างๆที่มีอยู่มากมาย และยังมองเห็นดอยอินทนนท์ได้อีกด้วย
เราไปกันต่อที่ม่อนม่วนรีสอร์ท เพื่อชมบรรยากาศสวยๆและสไตล์การตกแต่งรีสอร์ท
พี่เจ้าของที่นี่อัธยาศัยดีและเป็นมิตรมากๆ
หลังจากนั้นเราก็ไปหาอะไรทานกันดีกว่าเริ่มหิวแล้วหล่ะ ร้านอาหารข้างทางอร่อยๆที่อยู่เลยอบต.โป่งแยงไปทางสะเมิง ประมาณ 100 เมตร เป้าหมายของเรา
พอทานอาหารเสร็จปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำแต่ที่ร้านไม่มีห้องน้ำให้เข้า ว๊าแย่จัง พี่แม่ค้าบอกว่าที่สนามบอลฝั่งตรงข้ามมี พวกเราก็เลยขับเข้ามาดู ดูข้างนอกเลอะเทอะ แต่ข้างในก็สะอาดดีครับ
 
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็พร้อมที่จะออกเดินทางกันต่อ เราแวะถ่ายรูปกันที่จุดชมวิวทีแรกกะว่าจะวนกลับเข้าเชียงใหม่เลย แต่พอมองเห็นอินทนนท์ชัดๆ แล้วเรายังเหลือเวลาอีกครึ่งวัน ไปกันต่อดีกว่า
แล้วเราก็มาถึงอินทนนท์ในเวลาประมาณ 15.30 น. พอเห็นพี่คนนี้แล้ว สุดยอดไปเลยพี่
บริเวณ พระธาตุเราเข้าไปชมสวนสวยๆกันดีกว่า
วิวสวยๆบริเวณรอบๆพระธาตุ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นานเพราะว่าต้องรีบกลับไปส่งรถคืน
 
เราออกจากดอยอินทนนท์ประมาณ 14.40 เพื่อกลับมายังตัวเมืองเชียงใหม่ มาถึงตัวเมืองเชียงใหม่และส่งรถตอน 18.30 น. รีบกันอย่างสุดชีวิตทีเดียว แต่ก็สนุกสนานมากๆกับทริป สองวันหนึ่งคืน หลังจากส่งรถเรียบร้อยเราก็ไปหาอะไรทานกันที่กาดหลวง แล้วก็ไปขึ้นรถกลับกรุงเทพ ที่อาเขต ต้องขอบคุณน้องๆที่ร่วมทริปทรหดไปด้วยกัน ทำให้ทริปนี้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น


ขอบคุณที่ท่านที่ติดตามนะครับแล้วเจอกันทริปหน้า


สวัสดีครับ


พลเอก.......










ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ27 มกราคม 2555 เวลา 17:25

    ม่อนแจ่มสวยมากๆเลย คราวหน้าขอไปด้วยคนนะะ...................

    ตอบลบ
  2. เข้ามาอ่านสนุกดีค่ะ แต่โหด ดิบจริง ๆ ค่ะ เก่งนะ ไปกันได้ด้วย

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณที่เข้ามาชมครับ ......................ดีใจมากๆครับบ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 สวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (ที่ไม่ไกลจาก Tokyo)

Trip in japan : kamikochi คามิโคจิ ความงดงามที่ซุกซ่อนอยู่ใจกลางเจแปนแอลป์ (Matsumoto)

Zao Snow Monsters ทุ่งปีศาจหิมะที่ซาโอะ