เยือนสุรินทร์ ถิ่นวัฒนธรรมโบราณ
การเดินทางเยือนสุรินทร์ถิ่นวัฒนธรรมของพวกเราในครั้งนี้ สนุกสนานมากครับ เอ๊ะหรือเหน็ดเหนื่อยก็ไม่รู้เพราะพวกเราเล่นตะลอนๆ เที่ยวกันจนแทบไม่มีเวลาหยุดพักหายใจกันเลยทีเดียว จุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้ก็คือไปเที่ยวบ้านผมเองครับที่จังหวัดสุรินทร์ ผมก็เลยชวนเพื่อนๆกลับไปเที่ยวบ้านกัน
ช่วงเวลาที่กำลังนั่งรอรถออกที่ขนส่งหมอชิต ครับ
เราเดินทางมาถึงที่บ้านประมาณเกือบ หกโมงเช้า หลังจากทานอาหารกันเสร็จ เราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวกันเลยครับ ที่แรกที่เราจะไปคือ วนอุทยานพนมสวายครับ
ทางเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธสุรินทรมงคล บันไดมีกี่ขั้นผมก็ไม่ได้นับครับ แต่ก็ได้เหนื่อยเล็กน้อยครับ สองข้างบันไดเป็นราวระฆังแขวน ให้ตีตามแรงศรัทธาครับ
พระพุทธสุรินทรมงคล ตั้งอยู่บนพนมเปราะ (เขาชาย) ซึ่งมีความสูง 220 เมตร
เขาสวายมียอดเขาสามลูก พนมเปราะ(เขาชาย)มีความสูง 220 ม.พนมสรัย(เขาหญิง)มีความสูง 210 ม.
และพนมกรอล(เขาคอก)มีความสูง 150 ม. ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วนั่นเองครับ
รูปบันไดเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธสุรินทรมงคลอีกรูป
มาถึงแล้วไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับป้ายเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงครับ
หลังจากนั้นเราก็แวะไปชมลานหินล้านปี น้ำตกสะโตงใหญ่และรอยเท้าหลวงตาพรหมกัน
ที่นี่ยังมีที่ให้เดินเที่ยวและศึกษาอีกมากมาย เช่น ผาชมจันทร์ ผาดอกบัว สระสวาย (บาราย) ปราสาทพนมสวาย เต่าหินศักสิทธิ์ เป็นต้น แต่วันนี้อากาศร้อนเหลือเกินครับ พวกเราจึงเดินได้ไม่ทั่ว
เวลาเที่ยงตรงเราก็มุ่งหน้าไปเที่ยวอีกที่ครับ นั่นก็คือ กลุ่มปราสาทตาเมือน
ปราสาทหลังแรกที่พวกเราไปคือ ปราสาทตาเมือนธม(ใหญ่) ครับ ขออนุญาตเจ้าหน้าที่จากทางเข้า แล้ว พอเดินเข้าตกใจมากครับ เจ้าหน้าที่ทหารจากกัมพูชาและของเรา อยู่เต็มตัวปราสาทไปหมดทุกที่ครับ
แต่พี่ๆเจ้าหน้าที่เขาใจดีมากครับ มาชวนพูดคุยและแนะนำต่างๆเป็นอย่างดีครับ รูปนี้พยายามหามุมที่ไม่ค่อยเห็นเจ้าหน้าที่แล้วนะครับ เพราะว่าพวกเรายืนบังกันหมดครับ
ปราสาทตาเมือนธม(ใหญ่)เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง บ่าย 3 โมง แต่ก่อนเคยมาไม่ใช่เวลานี้ครับ
ถามพี่เจ้าหน้าที่เขาบอกว่า ช่วงนี้มีการปรับกำลังพลเจ้าหน้าที่บ่อย ก็เลยต้องเผื่อเวลาให้เจ้าหน้าที่เขาได้ทำงานเคลียร์พื้นที่กัน
หลังจากนั้นเราก็มาแวะที่ปราสาทตาเมือนโต๊ด(เล็ก)กันครับ ปราสาทหลังนี้ไม่อยู่ในพื้นที่พิพาท ครับ จึงไม่มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังใดๆสามารถเดินชมและถ่ายรูปได้ตามสบายครับ
พระปรางก่อด้วยหินทราย ของปราสาทตาเมือนโต๊ด
กลับจากปราสาทตาเมือนก็มุ่งหน้ากลับบ้านกันครับ แล้วก็แวะพักชมวิวผามะนาวกันก่อน
ข้างๆหน้าผามีทางเดินให้ลงไปชมปฏิมากรรมทางธรรมชาติที่สรรค์สร้างหินรูปร่างแปลกครับ
เช้าอีกวันพวกเราตื่นกันตั้งแต่ ตีห้าครึ่งครับ เตรียมตัวออกไปเดินเที่ยวป่ากัน
พร้อมแล้วก็ไปกันเลยครับ วันนี้เรานนั่งรถไถไปกัน
มาถึงแล้วครับ เขื่อนตาเกาว์ เรามากันที่ท้ายเขื่อนครับ
น้ำยังขึ้นไม่ค่อยเยอะเลยครับ ปีนี้ฝนตกลงมาน้อย
แล้วเราก็เดินไปเก็บเห็ดกัน ได้เห็ดดอกใหญ่ๆแปลกๆมาสองดอกครับ ดอกสีดำเหมือนเห็นหลินจือพันปีเลยครับ (555สงสัยดูหนังจีนมากไป)
แล้วเราก็ตามไปดูสองหนุ่มพาไปตกปลากันครับ
วันนี้ตกปลาไม่ค่อยเวิร์คแหะ ไปหาผลไม้ป่ากินกันดีกว่าครับ (เงาะป่า)
หลังจากนั้นเราก็ไปเที่ยวตลาดชายแดนช่องจอมกัน อากาศร้อนแบบนี้ต้องทานไอศครีมให้ชื่นใจก่อนครับ แล้วค่อยเดินดูของกัน
หลังจากไฟไหม้ใหญ่ครั้งใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ ทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมครับ
ของยังเยอะเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นตลาดสด ของกินต้องมาตอนเช้าๆครับ ยิ่งเป็นเสาร์อาทิตย์ของยิ่งเยอะครับ
เช้าอีกวันก่อนกลับ พวกเราก็แวะไปเที่ยวที่ วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จุดชมวิวผานางคอย มองเห็นอ่างเก็บน้ำบ้านจรัสอยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจนครับ แต่ก่อนบริเวณหินก้อนนี้ยังเคย ไปนั่งถ่ายรูปใกล้ๆกับ กวาง แต่ตอนนี้เขาไม่ให้ขึ้นไปแล้ว เห็นบอกว่าสำรวจเจอพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ถ้ำหน้าผาด้านล่างซึ่งยังไม่มีการสร้างทางหรือบันไดลงไปชมแต่อย่างใดจึงไม่มีรูปมาให้เห็นครับ
เดี๋ยวนี้มีสร้างรั้วกั้นด้วยครับเพื่อความปลอดภัย
พระพุทธบารมีสยามบุรีพิทักษ์ พระพุทธรูปนาคปรกบนเขาศาลาติดกับผานางคอย
ลงจากวัดเขาศาลา เรามุ่งหน้ากันไปที่น้ำตกถ้ำเสือ เพื่อเล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำก่อนเดินทางกลับกันครับ
ปิดท้ายทริปการเดินทางเยือนสุรินทร์ ของพวกเราในครั้งนี้ ด้วยวิวสวยๆ ที่ผามะนาวครับ
เยือนสุรินทร์ ถิ่นวัฒนธรรม ปราสาทล้ำ ค่ามากมี
ขุนเขางาม ทั่งไพรี ก็มากมี ให้ยลเยือน
แปดสหาย ได้มุ่งหน้า เพื่อศึกษา ทั้งตาเมือน
เขาสวาย ก็ได้เยือน มิลืมเลือน เขาศาลา....
แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน
สวัสดีครับ
พลเอก........
