++ การเดินทางของมิตรภาพทั้งเจ็ด กับการเผด็จศึกแห่งขุนเขา........(ตอนที่ 3) ดอยสันป่าเกี๊ยะ ++

การเดินทางทริปนี้ของเราใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว พร้อมกับความประทับใจ ความสนุกสนาน และทั้งความตื่นเต้นให้ได้สัมผัสกันตลอดการเดินทาง    เหลืออีกหนึ่งเรื่องราวกับอีกหนึ่งดอยเท่านั้น     และเป็นอีกหนึ่งดอยที่จะตราตรึงในความงดงามของวิวทิวทัศน์ที่รายล้อม  ดอยสันป่าเกี๊ยะ 

                                 จุดหมายที่ปลายฟ้าแห่งสุดท้ายของการเดินทางครั้งนี้
ต่อจากตอนที่แล้ว



หลังจากที่พี่ใจดีแวะส่งเราที่ตลาดเชียงดาว แล้วพวกเราก็เดินชมตลาดหาซื้อเสบียงเพื่อเตรียมไปทานบนสันป่าเกี๊ยะกัน ตลาดเล็กๆได้บรรยากาศมากๆเลยครับ สามสิบนาทีผ่านไป รถกระบะที่เราติดต่อไว้ก็มารับ เย้ ๆ ทุกคนต่างดีใจเมื่อเห็นรถมารับซะที นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว     ก็แหมลุงแกดันมาสายครึ่งชั่วโมง พวกเราก็หวั่นนะซิ หลังจากนั้นพวกเราก็กระโดดขึ้นท้ายกระบะ   บางคนก็นั่งข้างหน้ากับพี่คนขับ เส้นทางเป็นทางดิน ที่ชื้นแฉะเหมือนกับทางขึ้นดอยผ้าห่มปก  เวลาใกล้โค้งหรือขึ้นเขาทีไร พวกเราจะเกร็งมาก มันมีความหวาดกลัวจากเหตุการณ์เมื่อเช้าที่ผ่านมา   แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี พี่คนขับเจ๋งมาก แบบนี้ซิเขาเรียก สิงห์ดอยของแท้ ล้อปัดไถลลื่นพี่แกก็คุมรถได้ดีมากๆ  พอมาถึง พวกเราก็ไม่รอช้า รีบเอาของลงไปเก็บแล้วไปถ่ายรูปกันดีกว่า  วันนี้เราตัดสินใจนอนห้องพักของศูนย์ เพราะว่าสะดวกสบายกว่า นอนเจ็ดคน ลุงแกคิดห้าร้อยเอง ใจดีมาก แต่น่าเสียดาย หมอกยังคงปกคลุมไปทั่วบริเวณเหมือนเมื่อวาน ไม่มีทีท่าว่าจะจางหายไปเลย  แต่ถึงกระหนั้นเราก็ยังสามารถกระโดดถ่ายรูปกันได้อย่างสนุกสนาน


หลังจากถ่ายรูปกันแล้ว พวกเราก็ไปทานอาหารกัน ก่อนถึงที่พักเราเห็นแปลงผักน่ากินมากจึงขออนุญาตคุณลุงที่ดูแลขอเก็บไปกินสักเล็กน้อย เก็บไปอย่างละสองสามต้น มีคะน้า สลัด และผักชีดอย( เป็นความเข้าใจผิดหรือความโง่เขลาของพวกเราก็ไม่รู้ ก็มันเหมือนนี้หน่า ) ปรากฎว่าผักชีดอยที่เข้าใจกันแท้ที่จริงคือต้นอ่อนของต้นบีทรูท พอเอามาทานกับปลากระป๋องทานไม่ได้เลยครับมันขม มาก เป็นอีกหนึ่งเรื่องฮาครับ ขำกันกลิ้งเลย บนโต๊ะอาหารหน้าห้องพัก


ในค่ำคืนที่อบอุ่นกว่าทุกคืนเพราะว่าเรานอนบ้านพัก  ทุกคนกำลังหลับสบายไม่มีใครอยากที่จะตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน เพราะคิดว่าคงผิดหวังเหมือนเมื่อวานเป็นแน่ เพราะว่าหมอกหนาเตอะไปทุกแห่ง แต่เวลา ประมาณ ตีห้าครึ่ง ผมก็ตัดสินใจลุกมาดูก่อนว่าวันนี้ท้องฟ้าจะเป็นอย่างไรบ้าง หากว่ามองไม่เห็นอะไรเลยเหมือนเมื่อวานก็จะกลับเข้าไปซุกตัวนอนอุ่นๆที่เตียงตามเดิมดีกว่า



แต่ก็โชคดีจริง ที่ผมตัดสินใจลุกขึ้นมาดู เพราะว่าอากาศวันนี้ท้องฟ้าโปร่งโล่ง  จนสามารถามองเห็น  พระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงามมาก พอเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า     ดวงดาวก็ทอแสงเปล่งประกายระยิบระยับเต็มไปหมด ผมจึงไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปปลุกสมาชิกทั้งหมดในทันที แต่ทุกคนก็ออดแอดงัวเงียไม่ยอมตื่นกัน ผมจึงย้ำอยู่หลายครั้ง ว่าพระอาทิตย์ขึ้นสวยมาก    ทะเลดาวก็เต็มไปหมดรีบลุกขึ้นมาดู เดี๋ยวท้องฟ้าสว่างก็อดเห็นกันพอดี ทุกคนจึงพยายาฝืนตัวเองลุกขึ้น    พอเดินออกมาข้างนอกทุกคนต่างตกตะลึง อึ้งกันไปสักพัก    เพราะว่าขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกมีสีแดงสดฉาบไว้บางๆ     และค่อยๆหนาขึ้น ดวงดาวก็สว่างเกลื่อนเต็มท้องฟ้าไปหมด  แล้วทุกคนก็หลุดจากภวังค์ของดวงดาว รีบวิ่งเข้าไปหยิบผ้าห่มมาคลุม วันนี้อากาศหนาวมากเลย หนาวกว่าทุกวันที่ผ่านมาซะอีก


พอท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว แสงอาทิตย์เริ่มสาดส่อง พวกเราก็ขนแก๊ส กาแฟ ชา ขนมปัง ไปนั่งทานกันที่ลานก่อไฟ อีกด้านหนึ่งของห้องพัก


ามหนุ่มกำลังเก็บเกี่ยวบรรยากาศกันอย่างเต็มที่    ยืนซึมซับอากาศอันบริสุทธิ์ ของยามเช้าที่สดใส     ท้องฟ้าถูกฉาบไปด้วยสีแดงเกือบครึ่งฟ้า


ถ่ายภาพรวมกันไว้หน่อยอีกสักช็อต ลืมบอกไปว่าทั้งดอยมีเพียงกลุ่มเรา กับกลุ่มของอาจารย์ที่พาครอบครัวมาเที่ยว เท่านั้น แล้วอาจารย์ก็อยู่แค่ที่บ้านพักและระเบียงหน้าห้อง ทำให้ทั้งดอยเหมือนมีเพียงกลุ่มเราเท่านั้น อะไรมันจะพิเศษอย่างนี้นะ ไม่ต้องแย่งกันกิน กันเที่ยว แถมยังต้องแย่งกันถ่ายรูปอีกต่างหาก


อีกมุมสวยๆ ที่ใครๆมาก็ต้องถ่ายเก็บไว้ต้นนี้คือซากุระ ที่ใบร่วงโรยหมด รอเวลาที่ดอกจะบานน่าเสียดายที่ดอกไม่บาน ตอนที่เราไป แต่แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบครับ


นี่เป็นอีกมุมหนึ่ง ในบรรดาบ้านพักทั้งหมดที่มีอยู่ของ ศูนย์เกษตรที่สูงแห่งนี้



วิวสวยๆ กับใครคนหนึ่งที่ไม่รู้จักเพียงแค่เห็นเดินผ่านเลนส์ของเรามา แต่คิดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มอาจารย์ที่มาพักครับ


ภาพเบื้องหน้าคืออีกมุมสวยๆ ของดอยหลวงเชียงดาว สถานที่ๆเราไปพิชิตมาในวันแรกของการเดินทาง มองจากมุมนี้ดอยหลวงเชียงดาวช่างดูยิ่งใหญ่ตระการตาจริงๆ


หลังจากทานกาแฟกับขนมปังอิ่มแล้ว พวกเราก็เริ่มมีแรงที่จะไปเดินถ่ายรูปกันต่อ ขอถ่ายรูปกับต้นท้อ  สักหน่อย ดอกท้อสวยมากครับ



คราวนี้ขอถ่ายแบบให้ดอยหลวง ช่วยเป็นแบ๊คกราวน์สวยๆให้สักหน่อย  พวกเรายืนถ่ายที่บริเวณหน้าบ้านพักของกลุ่มอาจารย์ เราได้เห็นอาจารย์กำลังใช้สมาธิในการวาดรูปอยู่ที่หน้าบ้านพัก พวกเราก็รีบสงบปากลงทันที โดยเกรงจะรบกวนสมาธิของอาจารย์เขา รูปที่อาจารย์วาดสวยมากพวกเราแอบดู


ลังจากเหนื่อยกับการเดินถ่ายรูปและชื่นชมบรรยากาศแล้ว พวกเราก็กลับมาที่พักเพื่อเก็บของกันแต่ก่อนที่จะเก็บของพวกเราก็มานั่งพักจิบชารับลมเย็นๆที่หน้าห้องพักกันก่อน แล้วพวกเราก็โบกมือลาดอยสันป่าเกี๊ยะ (แม่ตะมาน)กัน พอกลับลงมาถึง อ.เชียงดาว  ประมาณเที่ยงตรง เราก็หาร้านอาหารข้างทางทานกัน ได้ร้านส้มตำกับขนมจีน อร่อยมากแต่จำชื่อร้านไม่ได้  แต่คิดว่าไม่มีชื่อร้านนะครับ เพราะเป็นร้านเล็กๆของชาวบ้าน พอทานเสร็จ เราก็โบกรถกันต่อที่หน้าร้านของพี่เขาเลย คราวนี้โบกแป๊บเดียวได้เลยครับ แถมยังถึงเชียงใหม่อีกด้วย เย้ ขึ้นรถเร็วพวกเรา


พอมาถึงเชียงใหม่ พวกเราก็ไปซื้อตั๋วรถกัน พอมีเวลาเหลืออีกสามชั่วโมงกว่ารถจะออก พวกเราก็เลยเหมารถสองแถว ไปเที่ยวตลาดวโรรจน์เพื่อหาซื้อของฝากกั


ยังไม่ทันเดินหาซื้อของฝากเลย เพื่อนบางคนก็บ่นหิวข้าว เราเลยต้องไปแวะทานก๋วยเตี๋ยวกันก่อน แต่ละคนเต็มที่มากๆ ขนาดจะกินยังหยุดท่าให้ถ่ายรูปอีกต่างหาก หลังจากนั้นพวกเราก็ไปซื้อของฝากแล้วก็กลับมาขึ้นรถตรงเวลาพอดี


 พอกลับถึงกรุงเทพพวกเราต่างก็แยกย้ายกันไปตามภาระหน้าที่ที่รับผิดชอบ    เหลือไว้เพียงรูปภาพและความทรงจำดีๆ รอวันที่จะมีเวลาร่วมเดินทางกันอีกครั้ง      หนทางยังอีกไกลคงมีวันไหนสักวันที่โลกจะเปลี่ยนผันหมุนคืนวันของผองเรากลับมาเจอ  มิตรภาพของพวกเรางอกเงยงดงามไปพร้อมกับความลำบากและเหน็ดเหนื่อย  สมกับชื่อทริปที่ว่า การเดินทางของมิตรภาพทั้งเจ็ด กับการเผด็จศึกแห่งขุนเขา ผมขอปิดท้ายทริปการเดินทางที่แสนพิเศษครั้งนี้ด้วยภาพสวยๆ ของดอยหลวงเชียงดาวที่ตั้งตระหง่าน จากมุมมองของ ดอยแม่ตะมาน

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม 

 แล้วพบกันกับการเดินทางครั้งหน้านะครับ

สวัสดีครับ

พลเอก........





ความคิดเห็น

  1. สวยอีกแล้ววว

    อยากไปเที่ยวแบบชิวๆ สบายๆ แบบนี้บ้างจังเลย

    ปล. จะลงใต้เมื่อไหร่จ๊ะ อยากติดตาม

    ตอบลบ
  2. ว้าวๆ..บรรยากาศสวยงามสุดๆหง่ะ

    สุดยอดจิจิงเยย^^

    ตอบลบ
  3. สุดยอดคับ เกินจะบรรยายเป็นคำพูดคับ มันสวดยอด..... จริงจริง

    ปล.เที่ยวเมืองไทยคุณไม่ไป..คุณไม่รู้

    สวัสดีพี่น้องชาวไทย แล้วเราจะได้พบกัน.

    ตอบลบ
  4. งามแต้ๆๆเจ้า.......q(*-*)p

    ตอบลบ
  5. .....

    ซู๊ดยอดที่สุดเรย

    ซู๊ดยอดทุกรูป ซ๊ดยอดทุกทริป

    อยากปายมั้งจัง

    ปล. จาติดตามทุก ๆ ทริป นะจร้า

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะครับ จากใจ

    ตอบลบ
  7. ภาพสวย....ให้คะแนนเต็มเลยจ้า!!!!!
    แต่ภาพน้อยไปหน่อยนะ.....
    ยังดูไม่จุใจเลย......
    คราวหน้าพาไปดูของจริงเลยละกันนะ^^

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ16 มีนาคม 2554 เวลา 16:38

    วิวสวยมากเลยค่ะ...อยากไปมั่งจัง..


    apple..peem

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ16 มีนาคม 2554 เวลา 21:14

    โห.....วิวสวยมาก...น่าอิจฉาจังที่ได้มายืนที่ตรงนี้ ภาพแต่ละภาพแบบว่าให้ความรู้สึกที่อบอุ่นมาก คนถ่ายคงจะมีฝีมือเลยทีเดียว ถ้าจะไปกันอีกขอติดตามไปด้วยได้มั้ย....อยากไปบ้าง(';')
    ------fighting-----

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณทุกคนครับ ยังมีทริปอีกเยอะ อย่าลืมตามไปชมด้วยนะครับ และอย่าลืมเตรียมตัวสำหรับทริปหน้าที่เราจะไปกัน

    ตอบลบ
  11. รูปสวยมากอยากไปด้วยมั่งอะ

    ตอบลบ
  12. โคตรสวยเลยอะ ต้องสัมพัสเองแล้วละ งั้นไปเลยแล้วกันดีใหม

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 สวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (ที่ไม่ไกลจาก Tokyo)

Trip in Japan : เที่ยวกำแพงหิมะ เมืองโทยามะ ตอน ดินแดนฮาโตริ เมืองฮิมิ กำแพงหิมะบนอัลไพท์รูท (Himi Tateyama)

Trip in japan : kamikochi คามิโคจิ ความงดงามที่ซุกซ่อนอยู่ใจกลางเจแปนแอลป์ (Matsumoto)